From Waste to Value

AFYREN (ISIN: FR0014005AC9, ชื่อย่อ: ALAFY) บริษัทเทคโนโลยีสีเขียวที่ผลิตและจำหน่ายสารเคมีชีวภาพและคาร์บอนต่ำโดยใช้เทคโนโลยีการหมักด้วยโมเดลแบบครบวงจร (circular model) ร่วมกับ กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลอ้อยและอนุพันธ์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศลงนามในสัญญาข้อตกลงเพื่อจัดตั้งโรงกลั่นชีวภาพ (biorefinery) ในประเทศไทย โครงการนี้จะอยู่ในรูปแบบของการร่วมทุนที่ถือหุ้นโดย AFYREN 70% และอีก 30% ถือหุ้นโดยกลุ่มมิตรผล โรงงานนี้ถือเป็นโรงงานแห่งที่สองของ AFYREN ซึ่งมีเป้าหมายกำลังการผลิตกรดอินทรีย์ชีวภาพประมาณ 28,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเต็มกำลังการผลิตประมาณ 60 ล้านยูโรต่อปี

โดยการเลือกทำเลจัดตั้งโรงงานในบริเวณใกล้เคียงกรุงเทพฯ จะทำให้ AFYREN สามารถรองรับลูกค้าทั้งภายในประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และต่างประเทศจากระยะทางที่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในตลาดเชิงกลยุทธ์ของเอเชีย ซึ่งมีความต้องการกรดคาร์บอกซิลิกคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 4 ของความต้องการทั่วโลก การเติบโตของตลาดนี้ขับเคลื่อนด้วยภาคอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการสัตว์ (Animal nutrition) เป็นหลัก กรดอินทรีย์ชีวภาพของ AFYREN ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารหลายชนิดในรูปของสารกันบูดหรือสารแต่งกลิ่นรสธรรมชาติ รวมทั้งในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์หลายชนิด เพื่อเป็นทางเลือกแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ

ข้อตกลงเชิงกลยุทธ์สำหรับทั้งสองบริษัท คาดว่าจะเสร็จสิ้นกลางปี 2566 โดยขึ้นอยู่กับข้อตกลงของคู่สัญญาในเงื่อนไขสุดท้ายของการเป็นหุ้นส่วน

  • โครงการนี้จะส่งผลดีต่อสังคมด้วยการสร้างงานทางตรง 80 ตำแหน่งงาน และงานทางอ้อม 280 ตำแหน่งงาน รวมทั้งการให้ความรู้และฝึกอบรมพนักงานของบริษัทในอนาคต
  • โครงการประสบความสำเร็จในด้านสิ่งแวดล้อมเนื่องจากโรงงานจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงวัตถุดิบโดยตรง ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งได้อย่างมาก นอกจากนี้เทคโนโลยีของ AFYREN ยังสร้างช่องทางการใช้ประโยชน์วัตถุดิบเหลือทิ้งเพื่อสร้างห่วงโซ่คุณค่า

โรงงานแห่งนี้จะสามารถเข้าถึงพลังงานไฟฟ้าและไอน้ำจากแหล่งหมุนเวียนที่ปลดปล่อยคาร์บอนต่ำ ที่ผลิตจากชีวมวลแบบโคเจนเนอเรชัน (Co-generation) ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับโรงกลั่นชีวภาพและรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน อีกทั้งโรงงานนี้ยังใช้กระบวนการหมักพืชของไทยแบบไม่ใช้น้ำ และแร่ธาตุที่เป็นผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตจะถูกนำไปใช้เป็นปุ๋ยธรรมชาติมูลค่าสูง เช่นเดียวกับโรงงานแห่งแรกของ AFYREN

ความร่วมมือดังกล่าวเป็นการตอกย้ำกลยุทธ์หลักด้านความยั่งยืนของกลุ่มมิตรผลในด้าน Net Zero ในปี 2593 ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ซึ่งจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับโลกสีเขียว ในปีนี้ กลุ่มมิตรผลยังได้รับการจัดอันดับที่ 2 ในการจัดอันดับความยั่งยืนระดับโลกในหมวดอาหารตามการประเมินความยั่งยืนขององค์กร (Corporate Sustainability Assessment: CSA) ที่จัดทำโดย S&P Global

แหล่งที่มา https://renewable-carbon.eu/news/afyren-chooses-thailand-for-its-second-biobased-organic-acids-plant-entering-a-partnership-project-with-mitr-phol-a-global-leader-in-the-sugar-industry/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *